บริษัท ไทย วัน มอลล์ จำกัด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเวปไซต์ออนไลน์ ไทย วัน มอลล์ อย่างเป็นทางการ เพื่อแนะนำเวปไซต์นี้ให้เป็นที่รู้จักแก่นักธุรกิจและผู้ประกอบการไทยที่ต้องการจำหน่ายสินค้าไปยังประเทศจีน โดยไม่ต้องมีหน้าร้าน ซึ่งเป็นช่องทางที่สะดวกที่สุดในตลาดธุรกิจในโลกปัจจุบัน โดยเวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ อยู่ในส่วนของ Tmall ซึ่งอยู่ภายใต้แพลทฟอร์มอาลีบาบากรุ๊ป ซึ่งเป็นตลาด E-Commerce จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกในขณะนี้ เป็นที่นิยมมากในหลายทวีป เช่น ทวีปเอเชีย และทวีปอเมริกา เป็นต้น โดยรูปแบบ E-Commerce ของอาลีบาบากรุ๊ปจะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ C2C (Customer to Customer), B2C (Business to Customer) และ B2B (Business to Business) ซึ่ง ไทย วัน มอลล์ ได้เป็นหนึ่งในแพลทฟอร์ม B2C คือ การที่ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภคโดยตรง โดยในขณะนี้ เวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ มีผู้ใช้(USER) สัญชาติจีนสูงถึง 600 ล้านคน จากประชากรจีนทั้งหมด 1,400ล้านคน
นางสาวจีจี้ (หลุ่ย) แซ่กั๊ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย วัน มอลล์ จำกัด ได้แถลงในวันเปิดตัวเวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ ครั้งนี้ว่า “เนื่องจากที่ผ่านมา ดิฉันได้ทำธุรกิจอยู่ในสายงานที่ให้ข้อมูลแลกเปลี่ยนข่าวสารระหว่างไทยและจีนอยู่แล้ว เป็นเวลามากว่าสิบปี นับตั้งแต่เคยเป็นผู้ก่อตั้งและบริหารรายการข่าวภาษาจีนทีวีผ่านดาวเทียมในประเทศไทย ซึ่งจะรายงานความเคลื่อนไหวของไทยให้ชาวจีนรับรู้ อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งและบริหารหนังสือ “แอท ม่านกู่” ซึ่งเป็นหนังสือฟรีก็อปปี้ภาษาจีนอันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยจะครบรอบ 2 ปีในเดือนนี้ ทำให้เรามีความเข้าใจถึงความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของคนไทยและคนจีนเป็นอย่างมาก เราจึงมองหาโอกาสและช่องทางธุรกิจ ที่จะให้คนไทยได้มีโอกาสทำธุรกิจในประเทศจีนผ่านช่องทางออนไลน์ หรือ E-Commerce ที่เป็นช่องทางการทำธุรกิจที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน จึงเป็นที่มาของการเปิดตัวเวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ อย่างเป็นทางการในวันนี้ขึ้น”
“เวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ จำหน่ายสินค้า Thailand Best ซึ่งอยู่ใน Tmall ที่เป็นแพลทฟอร์มของอาลีบาบา กรุ๊ป และมีความน่าเชื่อถือ 100% จากการที่รัฐบาลจีนได้ให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีจุดแข็งในเรื่องของการชำระเงิน โดยลูกค้าสามารถชำระผ่าน Alipay.com โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมในการโอนเงิน เมื่อสินค้าส่งถึงบ้านและมีความเสียหาย ลูกค้าไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินจนกว่าจะได้รับความพอใจในสินค้า ซึ่งนับได้ว่าเป็น Third Party Payment ที่ใหญ่และมีประสิทธิภาพที่สุดในโลก อีกทั้งในส่วนของการจัดส่งสินค้า ไทย วัน มอลล์ ยังยืนยันได้ว่า ลูกค้าจะได้รับสินค้าที่สั่งไม่เกิน 10 วัน และในกรณีที่สินค้าชำรุดเสียหายระหว่างการจัดส่ง ลูกค้าสามารถพูดคุยกับผู้ประกอบการได้โดยตรง เนื่องจากเวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ มี Call Center แบบ Real time อยู่ทั้งในไทยและจีน ให้ลูกค้าสอบถามข้อมูลได้ตลอดเวลา”
“ณ ปัจจุบัน เวปไซต์ ไทย วัน มอลล์ มีความมุ่งมั่นเพื่อตอบสนองผู้ประกอบการไทย และเพิ่มช่องทางความสะดวกในการทำธุรกิจทั้งเล็กและใหญ่ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้ทำธุรกิจกับลูกค้าชาวจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของโลกได้ง่ายขึ้น โดยจะเน้นไปที่สินค้า “Thailand Best” อาทิ อาหารและผลไม้แห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งนับว่าเป็นสินค้าขายดีหรับคนจีน นอกจากนี้ยังมีเครื่องสำอางแบรนด์ไทย ยาดม และขนมขบเคี้ยวอีกด้วย ซึ่งแพคเกจของสินค้าในเวปไซต์ทุกชิ้นจะถูกบรรจุให้มีความแข็งแรงและทนทานในการจัดส่งเป็นอย่างมาก”
“และนอกเหนือจากการทำธุรกิจแบบ B2C แล้ว บริษัท ไทย วัน มอลล์ ในอนาคตอันใกล้นี้ ยังมีจุดมุ่งหมายในการขยายธุรกิจในรูปแบบ G2G หรือ Government to Government เพิ่มอีกด้วย คือ การร่วมมือกันของรัฐบาลในแต่ละประเทศ และจัดส่งสินค้าในปริมาณมาก เพื่อเป็นทางที่จะช่วยเหลือชาวเกษตรกรที่มีความต้องการอยากจำหน่ายสินค้า อาทิ ผลไม้ และ ข้าว โดยบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ธุรกิจนี้จะสร้างความก้าวหน้าให้กับบริษัทและเจ้าของธุรกิจผู้ประกอบการไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังวางแผนที่ให้ ไทย วัน มอลล์ จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2017 และเป็นเวปไซต์ B2C ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนภายใน 5 ปีนับจากนี้”