พลิกกลยุทธ์การอัปเกรดระบบ ก่อนยุติการสนับสนุนวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003

สำหรับผู้จัดการฝ่ายไอทีบางท่านแล้ว “การอัปเกรดเทคโนโลยี” อาจจะเป็นคำพูดที่ไม่น่าฟังนัก แม้แต่บริษัทอย่างอินเทลก็ตาม ยังต้องหาเหตุผลมากมายมารองรับหากต้องการจะเปลี่ยนแปลงระบบเซิร์ฟเวอร์ขององค์กร และจะมีการจัดการอย่างเร่งด่วนก็ต่อเมื่อเจอปัญหาการยุติการสนับสนุนเทคโนโลยีเก่า อย่างเช่นในกรณีของวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 ที่พ้นระยะการสนับสนุนในวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ตามกฎของมัวร์แล้ว ชิปประมวลผลในตลาดจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นหนึ่งเท่าตัวในทุกๆ 18 เดือน ดังนั้น องค์กรหลายแห่งจึงเลือกที่จะเปลี่ยนคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและคอมพิวเตอร์แบบพกพา ทุกๆ 3-5 ปี เพื่อให้สมรรถนะของระบบทัดเทียมกับคู่แข่ง แต่ทว่าผู้จัดการฝ่ายไอทีจำนวนมากมักไม่ให้ความสนใจในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของเซิร์ฟเวอร์ ทั้งๆ ที่เครื่องเซิร์ฟเวอร์นั้น เปรียบเสมือนหัวใจหลักที่ทำให้องค์กรดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างราบรื่น

หากองค์กรไม่สามารถถ่ายโอนและอัปเกรดระบบมาใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ทันสมัยได้ ก็จะทำให้โครงสร้างด้านไอทีมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐานตลาดไปอีกหลายปี ดังจะเห็นได้จากชิปประมวลผลรุ่นปัจจุบัน มีประสิทธิภาพในการคิดคำนวณสูงกว่าชิปในเซิร์ฟเวอร์รุ่นสิบปีก่อนถึงเกือบ 20 เท่าตัว ขณะที่ระบบปฏิบัติการเซิร์ฟเวอร์รุ่นใหม่ๆ ก็สามารถรองรับการใช้งานเซิร์ฟเวอร์เสมือน (Virtual Server) ได้ในจำนวนที่มากกว่า จึงมีสมรรถนะการใช้งานโดยรวมที่สูงขึ้นอย่างมหาศาล

จากรายงานวิจัยของไอดีซีในหัวข้อ “มูลค่าเชิงธุรกิจของการอัปเกรดสู่วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2012[1]” พบว่าระบบปฏิบัติการรุ่นนี้จะรองรับการใช้งานเซิร์ฟเวอร์เสมือน (Virtual Server) ได้มากกว่าวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 อยู่ถึง 12.5 ถึง 16.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพของศูนย์ข้อมูล ทำให้ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่ามากขึ้น และลดค่าใช้จ่ายลงได้อีกด้วย

หากมีการอัปเกรดมาใช้ทั้งชิปประมวลผลและระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุดแล้ว เซิร์ฟเวอร์ของคุณก็จะมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพมากขึ้น สามารถรองรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ รองรับการปฏิบัติงานแบบอัตโนมัติ การบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การใช้ชิปอินเทล ซีออน รุ่นล่าสุดควบคู่กับวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2012 ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ชุดนี้ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้ทำงานเข้าคู่กันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เทคโนโลยี Hyper-V ของไมโครซอฟท์จะช่วยให้คุณสามารถดึงพลังที่แท้จริงของเซิร์ฟเวอร์ระดับ 8 หน่วยประมวลผลออกมาใช้งานได้เต็มที่ เมื่อจับคู่กับชิปอินเทล ซีออน ตระกูล E7

ขณะที่ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2012 ก็ออกแบบมาให้ใช้คุณสมบัติด้านการประหยัดพลังงานของชิปซีออนอย่างคุ้มค่า จึงลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ราว 15% เมื่อเทียบกับฮาร์ดแวร์ชุดเดียวกันที่ใช้วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2008 R2

ส่วนใครที่ยังใช้วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 อยู่ อาจต้องเผชิญกับความท้าทายเป็นอย่างมาก ในการมอบความพึงพอใจให้กับทั้งลูกค้าและพนักงาน และยังอาจเกิดปัญหาการช่วงชิงบุคลากรที่มีความสามารถ การเอาชนะใจลูกค้า และเสียผลประโยชน์ในการแข่งขันในตลาด

วางแผนเพื่อเตรียมการอัปเกรด

ผู้จัดการฝ่ายไอทีจำนวนมากยังเชื่อในหลักการแบบเก่าว่า “ถ้าไม่เสีย ก็อย่าซ่อม” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์กรภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ที่มักเน้นแนวคิดด้านการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นมากเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับองค์กรในภูมิภาคอื่น

การอัปเกรดเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในวงจรชีวิตของโลกไอที โดยในปี 2550 อินเทลได้เผยแพร่งานวิจัยที่มีข้อสรุปว่าการอัปเกรดระบบโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลเป็นประจำทุกๆ 4 ปี จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในภาพรวมลงได้[2] แทนที่จะอัปเกรดเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น ซึ่งอาจทำให้ต้องรอคอยกันนานกว่าสิบปี

อินเทลเองมีศูนย์ข้อมูลอยู่ทั่วโลก 64 แห่ง ในเดือนมกราคมปี 2557 เรามีเซิร์ฟเวอร์เสมือนที่ใช้วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 อยู่ 18,000 ตัว ก่อนที่จะลดลงเหลือเพียงแค่ 2,000 ตัวในปัจจุบัน โดยเรามีเป้าหมายที่จะยุติการใช้วินโดวส์รุ่นเก่านี้ลงอย่างสิ้นเชิงภายในระยะเวลาอีกสองเดือนข้างหน้า โดยที่กระบวนการอัปเกรดระบบทั้งหมด นับตั้งแต่การวางแผนในขั้นเริ่มแรกเป็นต้นมา กินเวลาทั้งสิ้นรวม 20 เดือน

ด้วยกลยุทธ์และแผนงานที่ชัดเจน และการอัปเกรดอย่างสม่ำเสมอ อินเทลจึงได้รับผลกระทบจากการยุติการสนับสนุนวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยในช่วงขั้นตอนเริ่มแรกของการอัปเกรดระบบศูนย์ข้อมูลนั้น เรามีเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 อยู่ไม่ถึงครึ่ง จึงทำให้ขั้นตอนการถ่ายโอนระบบมีความซับซ้อนน้อยกว่า และกินเวลาสั้นกว่าองค์กรอื่นๆ ที่ไม่ได้อัปเกรดระบบอย่างสม่ำเสมอ

แต่เดิม กลุ่มธุรกิจต่างๆ ของอินเทลต่างต้องแบ่งปันทรัพยากรระบบในศูนย์ข้อมูลเพื่อใช้งานร่วมกัน เราจึงเลือกอัปเกรดระบบเป็นส่วนๆ ไปตามงบประมาณของแต่ละกลุ่ม ต่อมา เราตัดสินใจควบรวมระบบไอทีขององค์กรเข้าเป็นหนึ่งเดียว โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่ายต่อหน่วยลง 10% ซึ่งทำให้สามารถเพิ่มศักยภาพของระบบได้ราว 10-30% ต่อปีอีกด้วย

ออกแรงให้น้อยลง แต่ได้ผลมากขึ้น

หากไม่มีการบริหารศูนย์ข้อมูลในระยะยาวแล้ว การทำงานให้ได้ผลมากโดยออกแรงให้น้อยลงก็คงจะเป็นเรื่องยาก ถึงแม้ว่าการอัปเกรดระบบจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ไม่น้อย แต่การลงทุนนี้จะสร้างผลตอบแทนกลับมาได้อย่างคุ้มค่าทีเดียวในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า

แต่ก่อนจะเดินหน้าลงทุน คุณอาจจะต้องหาแรงสนับสนุนจากฝ่ายบริหาร และขอเงินทุนจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทด้วย หากคุณต้องเจอกับประธานฝ่ายการเงินที่เน้นข้อมูลด้านตัวเลข คุณก็จะต้องแสดงถึงอัตราผลตอบแทนที่จะได้กลับคืนมาในระยะยาวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเสียก่อน

ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับเส้นตายการยุติการสนับสนุนของผลิตภัณฑ์ใดอยู่หรือไม่ก็ตาม คุณควรผลักดันให้มีการวางแผนการอัปเกรดระบบอย่างน้อยหนึ่งครั้งในรอบสี่ปี เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบ และช่วยให้องค์กรมีศักยภาพเท่าทันโลกธุรกิจในยุคนี้

ดังนั้น การสิ้นสุดการสนับสนุนวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2003 จึงถือเป็นข่าวดีของหลายๆ องค์กรที่จะมีโอกาสได้ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้ทันสมัย และนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้งานให้เต็มที่ อย่างที่ระบบเก่าไม่สามารถทำได้

Latest

ใช้ Synology NAS เป็น uptime monitoring ด้วยแอพ uptime-kuma สั่ง alert ผ่าน Line ได้ด้วย

สำหรับแอดมินที่ต้องดูแลหลายๆ เว็บไซต์ สิ่งที่จำเป็นก็คือเครื่องมือที่เรียกว่า uptime monitoring ที่คอยเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์เว็บล่ม เพราะบางครั้งแค่เว็บล่มเพียงไม่กี่นาที ก็ทำให้เกิดความเสียหายหลายแสนทีเดียว บริการ uptime...

เตือนภัยถึงแอดมิน ระวังเฟซบุ๊กถูกแฮกไม่รู้ตัว

ช่วงนี้มิจฉาชีพระบาดหนัก ล่าสุดผมเองก็โดนกับตัวผ่านทาง facebook เลยอยากจะมาเตือนเพื่อนๆ ทุกคน โดยบล็อกนี้ผมจะแฉวิธีการและวิธีสังเกตการหลอกเอาข้อมูลของเรา รู้ไว้จะได้รู้เท่าทันพวกมิจฉาชีพเหล่านี้ครับ 2 ขั้นตอนหลัก ที่มิจฯ...

หยอดปุกรอ!! 4 รถแบรนด์ดัง พลังงานไฮโดรเจน น่าจับตาปี 2023

สำหรับปี 2023 เป็นต้นไปนี้ เราจะเห็นรถพลังงานไฮโดรเจนเปิดตัวมากขึ้น ดูเหมือนทุกค่ายจะซุ่มทำรถไฮโดรเจนของตัวเอง แล้วเหมือนจะนัดกันเปิดตัวในปีนี้พร้อมๆ กัน

Windows Search ห่วย ใช้ Listary ช่วยคุณได้

คิดว่าหลายคนที่ใช้วินโดวส์เป็นหลัก น่าจะรู้สึกเหมือนผม คือรำคาญระบบค้นหา หรือช่อง search ของวินโดวส์ เพราะช้า แถมหาอะไรก็ไม่ค่อยเจอ ...

Newsletter

Don't miss

ใช้ Synology NAS เป็น uptime monitoring ด้วยแอพ uptime-kuma สั่ง alert ผ่าน Line ได้ด้วย

สำหรับแอดมินที่ต้องดูแลหลายๆ เว็บไซต์ สิ่งที่จำเป็นก็คือเครื่องมือที่เรียกว่า uptime monitoring ที่คอยเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์เว็บล่ม เพราะบางครั้งแค่เว็บล่มเพียงไม่กี่นาที ก็ทำให้เกิดความเสียหายหลายแสนทีเดียว บริการ uptime...

เตือนภัยถึงแอดมิน ระวังเฟซบุ๊กถูกแฮกไม่รู้ตัว

ช่วงนี้มิจฉาชีพระบาดหนัก ล่าสุดผมเองก็โดนกับตัวผ่านทาง facebook เลยอยากจะมาเตือนเพื่อนๆ ทุกคน โดยบล็อกนี้ผมจะแฉวิธีการและวิธีสังเกตการหลอกเอาข้อมูลของเรา รู้ไว้จะได้รู้เท่าทันพวกมิจฉาชีพเหล่านี้ครับ 2 ขั้นตอนหลัก ที่มิจฯ...

หยอดปุกรอ!! 4 รถแบรนด์ดัง พลังงานไฮโดรเจน น่าจับตาปี 2023

สำหรับปี 2023 เป็นต้นไปนี้ เราจะเห็นรถพลังงานไฮโดรเจนเปิดตัวมากขึ้น ดูเหมือนทุกค่ายจะซุ่มทำรถไฮโดรเจนของตัวเอง แล้วเหมือนจะนัดกันเปิดตัวในปีนี้พร้อมๆ กัน

Windows Search ห่วย ใช้ Listary ช่วยคุณได้

คิดว่าหลายคนที่ใช้วินโดวส์เป็นหลัก น่าจะรู้สึกเหมือนผม คือรำคาญระบบค้นหา หรือช่อง search ของวินโดวส์ เพราะช้า แถมหาอะไรก็ไม่ค่อยเจอ ...

รวม 22 คีย์ลัด Windows Key ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นพันเปอร์เซ็นต์

ปุ่ม Windows Key หน้าตาแบบนี้ ไม่ได้มีไว้ใช้แค่เรียกเมนู Start ขึ้นมาเท่านั้นนะครับ แต่ตัวมันใช้เป็นคีย์ลัดสำหรับการการทำงานบนวินโดวส์ได้หลายอย่างมาก วันนี้ผมขอรวบรวมคีย์ลัดของปุ่มนี้...

ใช้ Synology NAS เป็น uptime monitoring ด้วยแอพ uptime-kuma สั่ง alert ผ่าน Line ได้ด้วย

สำหรับแอดมินที่ต้องดูแลหลายๆ เว็บไซต์ สิ่งที่จำเป็นก็คือเครื่องมือที่เรียกว่า uptime monitoring ที่คอยเตือนเมื่อเกิดเหตุการณ์เว็บล่ม เพราะบางครั้งแค่เว็บล่มเพียงไม่กี่นาที ก็ทำให้เกิดความเสียหายหลายแสนทีเดียว บริการ uptime monitoring สมัยนี้มีหลากหลายเจ้า ปกติจะเก็บค่าบริการกันแบบ subscription รายเดือน แต่ถ้าใครไม่อยากจ่ายตังค์ วันนี้ผมมีโซลูชั่น สำหรับใครที่มีการใช้งาน NAS อยู่แล้ว เราจะเอา NAS มาทำเป็น uptime monitoring...

เตือนภัยถึงแอดมิน ระวังเฟซบุ๊กถูกแฮกไม่รู้ตัว

ช่วงนี้มิจฉาชีพระบาดหนัก ล่าสุดผมเองก็โดนกับตัวผ่านทาง facebook เลยอยากจะมาเตือนเพื่อนๆ ทุกคน โดยบล็อกนี้ผมจะแฉวิธีการและวิธีสังเกตการหลอกเอาข้อมูลของเรา รู้ไว้จะได้รู้เท่าทันพวกมิจฉาชีพเหล่านี้ครับ 2 ขั้นตอนหลัก ที่มิจฯ ใช้มาหลอกเรา ส่งข้อความมาทาง inbox แจ้งว่าเพจทำผิดกฎ หรือ ละเมิดกฎเฟซบุ๊ก ให้กดลิงค์ เพื่อยืนยันตัวตน ไม่งั้นจะบล็อกเพจถาวร พอเรากดลิงค์เข้าไป จะเจอกับหน้าเพจ (คล้าย) เฟซบุ๊ก ซึ่งมีฟอร์มให้เราใส่ข้อมูลต่างๆ รวมถึง ชื่อเพจ อีเมล...

หยอดปุกรอ!! 4 รถแบรนด์ดัง พลังงานไฮโดรเจน น่าจับตาปี 2023

สำหรับปี 2023 เป็นต้นไปนี้ เราจะเห็นรถพลังงานไฮโดรเจนเปิดตัวมากขึ้น ดูเหมือนทุกค่ายจะซุ่มทำรถไฮโดรเจนของตัวเอง แล้วเหมือนจะนัดกันเปิดตัวในปีนี้พร้อมๆ กัน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here